เอกสารในการขอต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

เอกสารในการขอต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
– พ.ร.บ รถยนต์
– สำเนาทะเบียนรถยนต์ (กรณีรถติดไฟแนนซ์ให้ใช้สำเนาทะเบียนจากสถานบันการเงิน)
– ใบตรวจสภาพรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่เกิน 7 ปี
– รถยนต์ติดแก๊ส ต้องยื่นเอกสารรับรองการติดแก๊สที่ถูกต้อง พร้อมใบตรวจสภาพจากวิศวกร

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ “กรมการขนส่งทางบก” ผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ คลิก https://www.dlt.go.th/th/
2. คลิก ชำระภาษีรถผ่านอินเตอร์เน็ต
3. ลงทะเบียนสมาชิก สำหรับผู้ที่ไม่เคยต่อทะเบียนออนไลน์ พร้อมกรอกข้อมูลเบื้องต้น อย่างเช่น เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ ที่อยู่สำหรับการจัดส่งเอกสาร พร้อมขอรับรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ
4. คลิก ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี
5. สามารถชำระเงินต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กับ ธนาคารและหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้
– ชำระเงินบัญชีออนไลน์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารยูโอบี และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
– ชำระผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
– บริการรับชำระด้วยใบแจ้งชำระภาษีรถยนต์
– ชำระเคาน์เตอร์ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารธนชาติ ธนาคารทหารไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส ทรูมันนี่เซอร์วิส ธนาคารยูโอบี ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
– ชำระผ่านตู้ ATM ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น
– บริการชำระผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ ทรูมันนี่ เซอร์วิส
6. เมื่อทำตามขั้นตอนเรียบร้อย กรมการขนส่งทางบก จะจัดส่งใบเสร็จรับเงิน ให้ผู้ชำระเงินผ่านทางไปรษณีย์ เสียค่าจัดส่ง ดังนี้
– ค่าจัดส่งเอกสาร 40 บาท
– ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท กรณีหักผ่านบัญชีธนาคาร
– ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร ร้อยละ 2 รวม Vat 7% (กรณีชำระผ่านบัตรเครดิต)

การต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องที่ผู้ครอบครองรถยนต์ต้องรับผิดชอบ เมื่อรถยนต์ของคุณครบกำหนดที่จะต้องต่อภาษี เพราะเป็นข้อบังคับตามกฎหมายกรมการขนส่งทางบก ซึ่งการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มอบความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ผู้คนในยุคดิจิทัลอย่างมาก พี่หมีแนะนำอย่าปล่อยให้ทะเบียนรถยนต์หมด เพราะจะได้ไม่เกิดปัญหา หรือเรื่องยุ่งยากภายหลัง